เสือตัวแรก บาเยิร์น มิวนิค ที่พลาดท่าแพ้ อาร์เบ ไลป์ซิก คาบ้านในนัดรองสุดท้าย จนทำให้ตัวเองต้องเสียตำแหน่งจ่าฝูงไปให้กับเสือตัวที่ 2 อย่าง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่ลงแข่งทีหลัง แล้วบุกไปคว้าชัยชนะเหนือ เอาส์บวร์ก มาได้

ทำให้ตอนนี้ ‘เสือเหลือง’ ที่เบียดกับ ‘เสือใต้’ มาทั้งฤดูกาล กุมความได้เปรียบในนัดสุดท้ายเอาไว้

เกมนัดสุดท้ายของทั้งคู่จะอยู่ในสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไป ทาง ดอร์ทมุนด์ ต้องเปิดรัง ซิกนัล อิดูน่า พาร์ก รับการมาเยือนของ ไมนซ์ ทีมอันดับ 9 ของตารางคะแนน ส่วนทาง บาเยิร์น ต้องออกไปเยือนทีมกลางตารางอย่าง โคโลญจน์

ทางด้านผู้จัดการทีม เอดิน แทร์ซิช เพิ่งมาคุมทีม ดอร์ทมุนด์ เต็มตัวเป็นฤดูกาลแรก หลังจากที่เคยเป็นผู้ช่วยของ ลูเซียง ฟาฟร์ มาตั้งแต่ปี 2018 และได้โอกาสคุมทีมขัดตาทัพในครึ่งหลังของฤดูกาล 2020-21 โดยในซีซั่นนั้นพาทีมก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล มาได้อีกด้วย

ส่วนทาง โธมัส ทูเคิล เพิ่งจะมาคุมทีมได้เพียง 2 เดือนเท่านั้น โดยเกมแรกของเขาก็เป็นการเอาชนะคู่แข่งแย่งแชมป์ที่ อัลลิอันซ์ อารีน่า ไปได้ด้วยสกอร์ 4-2 แต่หลังจากนั้น เจ้าตัวก็พาทีมตกรอบทุกรายการ ทั้งบอลถ้วย รวมถึง แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งคุมทีมไปแล้ว 11 นัด แต่พาทีมคว้าชัยชนะได้เพียง 5 นัดในทุกรายการ ไม่ถึงครึ่งเลยด้วยซ้ำ

คราวนี้เรามาดูสถานการ์ที่ตารางคะแนนกันบ้าง ดอร์ทมุนด์ มี 70 คะแนน ลูกได้เสีย +39 ส่วนทาง มิวนิค มี 68 คะแนน ลูกได้เสีย +53

ว่ากันง่ายๆเลย หาก ‘เสือเหลือง’ เก็บชัยชนะในนัดสุดท้ายมาได้ ก็ไม่ต้องไปลุ้นอะไรกันแล้วครับ ได้ฉลองแชมป์ในบ้านแบบหล่อๆกันไปเลย แต่ถ้าหากพวกเขาทำได้เพียงเสมอ ก็ต้องไปแช่งให้ ‘เสือใต้’ ไม่ชนะด้วยเช่นกัน

หากทางทีมของ ทูเคิล คว้า 3 คะแนนมาได้ในกรณีที่คู่แข่งลุ้นแชมป์ไม่ชนะ พวกเขาก็จะคว้าถาดแชมป์ บุนเดสลีกา เป็นสมัยที่ 11 ติดต่อกันได้เลย ด้วยความได้เปรียบเรื่องลูกได้เสียที่ตุนไว้เยอะ

เขียนโดย The Lite Team.